koy__zaa
วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์
ตั้งอยู่กลางเทือกเขาภูพาน บนเส้นทางหลวงสายสกลนคร-กาฬสินธุ์ เส้นทางหลวงหมายเลข 213 ห่างจากตัวเมืองสกลนคร 13 กิโลเมตร มีทางแยกเข้าไปทางด้านขวามือ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2106 เป็นสถานที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระราชวงศ์ ในคราวเสด็จแปรพระราชฐานเยี่ยมพสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณสถานที่ตั้งเป็นป่าไม้ร่มรื่น มีไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ในระหว่างที่ไม่ได้ประทับอยู่ที่พระตำหนักอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน โดยทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการพระราชวัง พระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน กรุงเทพฯ 10200 และเมื่อได้รับหนังสือตอบรับแล้วจึงจะเดินทางไปชมได้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
การเดินทาง ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๓ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๒๒ เส้นทางสายสกลนคร-บ้านธาตุ แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ ๒๐๐ เมตร
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ตั้งอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาส ถนนสุขเกษม ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร มีลักษณะของอาคาร ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าชั้นเดียว คล้ายแบบบ้านทรงไทยประยุกต์ ก่อด้วยคอนกรีต มีช่องแสงที่ผนังทั้ง 2 ด้าน มีทางเข้าด้านหน้าทางทิศตะวันออกทางเดียว ทางด้านหลังไม่มีทางเข้า หลังคาทำเป็นหลังคาทรงไทยประยุกต์ ผนังด้านหน้าทางเข้าตัวอาคารมีรูปปันนูนสูงดินเผา เป็นภาพเล่าเรื่องธุดงควัตรของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ มีลานรอบ ๆ ตัวอาคารมีทางขึ้นและลงทั้งด้านหน้าทิศตะวันออกและด้านหลังทิศตะวันออก พื้นภายในอาคารเป็นหินอ่อน มีการจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารบริเวณผนังด้านทิศใต้และทิศเหนือ ประกอบด้วยเครื่องอัฐบริขารดังนี้
- อัฐบริขาร คือ สบงที่ใช้เป็นผ้านุ่ง จีวร ใช้เป็นผ้าห่ม สังฆาฎิใช้เป็นผ้าห่มกันหนาว และใช้พาดบ่าในโอกาศเข้าพิธีสังฆกรรมต่างๆ บาตรสำหรับใช้ใส่ภัตตหาร มีดโกนสำหรับปลงผม รัดประคตสำหรับคาดเอว หม้อกรองน้ำ
- เครื่องใช้ในการธุดงค์ มีกลด มุ้ง หมอน หนังจัมขันธ์ เป็นต้น- เครื่องใช้ประจำวัน เช่น คนโทน้ำ จอกน้ำ มีด ช้อน ตลับสีผึ้ง
- บริขารเบ็ดเตล็ด เช่น อ่างไม้บดยาและย้อมผ้า สมุนไพร ถุงยา กระโถนดินเผา ตาลปัตร ย่าม เชิงเทียน กระถางธูป
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
พระธาตุภูเพ็ก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
ที่ตั้ง
วัดพระธาตุเชิงชุมตั้งอยู่ริมหนองหารในเขต เทศบาลสกลนคร มีพื้นที่ 18 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา อยู่ปลายสุดของถนนเจริญเมือง มี อาณาเขตดังนี้ ทิศเหนือและทิศตะวันออก ติดกับหนองหารหลวงและบ้านเรือนชาวคุ้มทิศ ตะวันตก ติดกับถนนเรืองสวัสดิ์ ทิศใต้ ติดกับ ถนนเจริญเมือง
ประวัติความเป็นมา
ตามอุรังค นิทาน กล่าวว่า วัดพระธาตุเชิงชุม เป็นสถานที่ พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาโปรดชาวเมืองหนองหาร หลวง และกล่าวว่าบริเวณนี้เป็นที่บรรจุพระบาท ของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า กุกสันโธ โกนาคมโน กัส สะโป และโคตมะ ซึ่งก่อนจะเสด็จดับขันธ์ ปรินิพพาน ต้องไปประทับรอยพระบาทไว้ที่นั่นทุก พระองค์ นับว่าพระพุทธเจ้าพระนามว่า ศรี อาริยเมตตรัย องค์ที่ 5 ในภัทกัปป์นี้ ก็จะประทับรอยพระบาทไว้เช่นกัน ด้วยเห ตะนี้จึงถือกันว่าวัดพระธาตุเชิงชุม จึงเป็นวัดแรกที่พระยาสุวรรณภิงคาระ พระะ นางนารายณ์เจงเวง และเจ้าคำแดง อนุชาพระยา สิวรรณภิงคาร มาสร้างวัดขึ้นเมื่อย้ายราชธานี จากบริเวณซ่งน้ำพุและท่านางอายฝั่งตรงข้าม หนองหาร เมื่อครั้งหนองหารล่มเพราะการกระทำของ พญานาค อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานเสมา หินที่พบอยู่รอบ ๆ วัดพระธาตุเชิงชุม และหลักฐานแท่านบูชารูปเคารพ ตลอดยนศิลาจารึกตัว อักษรขอมในพุทธศตวรรษที่ 15 - 16 ซึ่งอยู่ ติดผนังทางเข้าภายในอุโมงค์พระธาตุเชิงชุม (ชั้นใน) ซึ่งก่อเป็นพระธานุหรือ สถูปขนาดเล็ก หลักฐานเหล่านี้บ่งบอกว่า บริเวณ วัดพระธาตุเชิงชุมได้มีชุมชนเกิดขึ้น ต่อเนื่องกันมา โดยเฉพาะศิลาจารึกที่กรอบประตู ทางเข้าปรางค์ขอมหรือสถูป ซึ่งมีความกว้าง 49 ซ.ม. ยาว 52 ซ.ม. เขียน เป็นตัวอักษรขอมโบราณ เนื้อความกล่าวถึงบุคคลจำนวน หนึ่ง ได้พากันไปชี้แจงแก่โขลญพล หัว หน้าหมู่บ้าน พระนุรพิเนาตามคำแนะนำ ของกำแสดงว่าที่ดินที่ราษฎรหมู่บ้านพะ นุรนิเนามอบให้โบลูญพลนี้มี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นที่ดินในหลักเขต ให้ขึ้น กับหัวหน้าหมู่บ้านพะนุรพิเนา นอกจาก เรื่องการมอบที่ดินแล้ว ข้อความตอนท้ายของ จารึกได้กล่าวถึงการกัลปนาของโขลญพลที่ได้ อุทิศตน สิ่งของที่นา แด่เทวสถานและสงกรานต์
กล่าวโดยสรุปในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 - 16 บริเวณวัดพระธาตุเชิงชุมคงถูกปกครอง โดยคนกลุ่มขอมที่พากันสร้างวัด โดยอุทิศ ที่ดิน บริวาร ข้าทาส ให้ดูแลวัด หรือศา สนสถานแห่งนี้ ซึ่งอาจเป็นศาสนสถานตาม คติพราหมณ์หรือพุทธมหายานก็ได้
ความสำคัญต่อชุมชน
หลักฐานการตั้งชุมชนบริเวณวัดพระ ธาตุเชิงชุมในสมัยรัตนโกสินทร์ค่อนข้างเด่น ชัด โดยเฉพาะพงศาวดาร ฉบับพระยาประจันตประเทศธานี ( โง่นคำ) กล่าวว่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดผ้าจุ)าโลกมหาคาช โปรด เกล้าฯ ให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมไพร่พลตัวเลก มาตั้งเมืองรักษาพระธาตุเชิงชุม เมื่อมีผู้ คนมากขึ้นก็โปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านธาตุ เชิงชุม ขึ้นเป็นเมืองสกลทวาปี เมื่อปี พ .ศ.2329 อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดศึก เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์เป็นกบฏใน พ.ศ .2370 เมืองสกลนครต้องโทษเป็นกบฎขัดขืนอาญา ศึก เจ้าเมืองฝักใฝ่กับเจ้าอนุวงค์ไม่ได้เตรียม กำลังไพร่พล กระสุนดินดำ เว้ให้ทัพหลวงตาม คำสั่ง พระธานีเจ้าเมืองสกลทวาปีถูกประหาร ชีวิต ญาติพี่น้องเจ้าเมืองถูกกวาดต้อนไปอยู่ เมืองกบิลประจันตคาม จึงทำให้บริเวณวัดพระธาตุ เชิงชุม ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองถูกทิ้งร้าง ชั่วคราวปล่อยให้หมู่บ้านรอบ ๆ 10 หมู่บ้าน เป็นข้าพระธาตุดูแลวัดแห่งนี้
หลังการกบฎของเจ้าอนุวงศ์ ราชวงศ์ (คำ) แห่งเมือง มหาชัยกองแก้วได้เข้ามาพึ่งบราโพธิสมภาร โปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นพระประเทศธานี(คำ ) เจ้าเมืองและให้ราชวงศ์เมืองกาฬสินธุ์มาดำรงตำแหน่ง อุปฮาด ให้ท้าวอินน้องชายราชวงศ์(คำ)เป็น ราชวงศ์ ให้ท้าวบุตรเมืองกาฬสินธุ์เป็นราชวงศ์ มีการสร้าง กุฏิ ศาลาการเปรียญตั้งแต่นั้นมาวัดพระธาตุ เชิงชุมก็เจริญขึ้นตามลำดับ
จึงถือว่าวัดพระธาตุเชิงชุมเป็นศูนย์กลางของเมืองสกลนคร มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพระธาตุเชิงชุม
วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร มีโบราณสถาน โบราณวัตถุสำคัญ ๆ นับแต่องค์พระธาตุเชิงชุม หลวงพ่อพระ พุทธองค์แสน พระอุโบสถ พระวิหาร หอจำศีล ( สิมหลังเล็ก) 90 ไตร ฯลฯ ในที่นี้ขอ อธิบายเฉพาะตัวสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุเท่านั้น
พระธาตุเชิงชุมเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนสี่ เหลี่ยม สูง 24 เมตรเศษ มีซุ้มประตู 4 ด้าน คือ ด้านตะวันตก ด้านเหนือ ด้านใต้ ลักษณะประตูเป็นประตู ปิด - เปิด ได้แต่เปิดไม่ได้มากเพราะติด องค์สถูปภายใน ซึ่งเจดีย์องค์ใหม่สร้างครอบไว้ ส่วนด้านตะวันออกเป็นประตูทางเข้าสถูปภายใน วิหาร
ทรวดทรงของพระธาตุเชิงชุม เป็นทรงเจดีย์ สี่เหลี่ยมลดชั้นจากฐานขึ้นไปสู่ยอดเป็น ช่วง ๆ 3 ช่วง จึงถึงเต้าระฆัง และรับด้วย ดวงปลีที่ทำเป็นทรงบัวเหลี่ยมปักยอดฉัตร ทองคำ ลักษณะการลดชั้นเจดีย์รับด้วยดวงปลี ทรงบัวเหลี่ยม ทำให้องค์พระธาตุเชิงชุมมี ความสวยงามกระทัดรัดไม่เทอะทะ เช่น เจดีย์ทรง ฐานกว้างเตี้ย นอกจากนี้สถาปนิกยังสร้างให้ซุ้ม ประตู 3 ด้าน เพื่อให้ประชาชนเห็นองค์พระธาตุ (สถูป) เดิมภายใน ต่อมาได้มีการ นำพระพุทธรูปปางห้ามญาติ อิทธิพลล้านช้าง มาติดไว้ในซุ้มทั้ง 3 ด้าน นับว่าเป็น ส่วนประกอบองค์สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ และเป็นประติมากรรม แบบล้านช้างที่แท้จริง
องค์ประกอบสำคัญขององค์พระธาตุเชิงชุมคือ ซุ้มประตูโขงทรงหอแก้วดอ เป็นลักษณะหอแก้วเฟื่อง คือ มีขนาดพองาม และ ในพื้นที่ครึ่งหนึ่งของปริมณฑล ทำให้พื้นที่ บริเวณฐานเจดีย์องค์พระธาตุสวยงาม ในส่วนราย ละเอียดของซุ้มประตูนั้นเป็นงานสถาปัตยกรรมฝีมือช่าง ชั้นครู โดยเฉพาะลายของก้นหอยซึ่งทำขนาด ใหญ่น้อยเรียงกันไป เพียงแต่มีปูนขาวทาบ ทับนนหนาปิดบังความคมชัดของลายก้นหอย อันวิจิตรบรรจง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552
Search
เกี่ยวกับฉัน
GuestBook
เวลา
ThE GirL
koyZaa
ผู้ติดตาม
calendar koyzaa
E-Commerce
- E-Commerce
- e-Commerce คือธุรกิจรูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21
- E-Commerce คืออะไร
- การเริ่มต้นทำ E-Commerce
- ข้อดี ข้อเสียของE-Commerce
- ความรู้เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce)
- ความรู้เบื้องต้น E-Commerce
- ความสำคัญของระบบอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)
- ประเภทของ E-Commerce
- ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
ป้ายกำกับ
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (1)
- การแต่งกายประจำภาคอีสาน (1)
- การแสดงประจำภาคอีสาน (1)
- กุ๊กกิ๊ก (1)
- เกี่ยวกับชั๊ล (1)
- คลิปการแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน (1)
- คลิปอาหารอีสาน (1)
- ความทรงจำ (1)
- ความรู้เบื้องต้น E-Commerce (1)
- ความหมายของอินเตอร์เน็ต (1)
- ชนเผ่าต่างๆในภาคอีสาน (1)
- ซอฟท์แวร์ที่จำเป็นสำหรับใช้งานบนระบบอินเทอร์เน็ต (1)
- ภาษาท้องถิ่นภาคอีสาน (1)
- มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (1)
- วันครู (1)
- ศิลปะของชาวอีสาน (1)
- สถานที่จัดงานปีใหม่ (1)
- สถานที่ท่องเที่ยว (5)
- อาชีพของคนในภาคอีสาน (1)
- อาหารของคนภาคอีสาน (1)
- อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (1)
- Crazy Love (1)
- E-Commerce (1)
- E-Commerce (การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) (1)
- koy (1)
- The One (1)
Labels
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (1)
- การแต่งกายประจำภาคอีสาน (1)
- การแสดงประจำภาคอีสาน (1)
- กุ๊กกิ๊ก (1)
- เกี่ยวกับชั๊ล (1)
- คลิปการแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน (1)
- คลิปอาหารอีสาน (1)
- ความทรงจำ (1)
- ความรู้เบื้องต้น E-Commerce (1)
- ความหมายของอินเตอร์เน็ต (1)
- ชนเผ่าต่างๆในภาคอีสาน (1)
- ซอฟท์แวร์ที่จำเป็นสำหรับใช้งานบนระบบอินเทอร์เน็ต (1)
- ภาษาท้องถิ่นภาคอีสาน (1)
- มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (1)
- วันครู (1)
- ศิลปะของชาวอีสาน (1)
- สถานที่จัดงานปีใหม่ (1)
- สถานที่ท่องเที่ยว (5)
- อาชีพของคนในภาคอีสาน (1)
- อาหารของคนภาคอีสาน (1)
- อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (1)
- Crazy Love (1)
- E-Commerce (1)
- E-Commerce (การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) (1)
- koy (1)
- The One (1)